‘บลิงเคน’ ต่อสายตรง ‘ดอน’ เสียใจ จำเป็นต้องยกเลิกเยือนไทย

‘บลิงเคน’ ต่อสายตรง ‘ดอน’ เสียใจ จำเป็นต้องยกเลิกเยือนไทย

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ต่อสายตรงหา ดอน แสดงความเสียใจ หลังจำเป็นต้องยกเลิกเยือนไทย เพราะนักข่าวติดโควิด สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า นาย แอนโทนี เจ. บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พูดคุยกับ นาย ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เพื่อแสดงความเสียใจที่ไม่สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้ หลังนักข่าวที่ร่วมเดินทางติดโควิด-19

โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “นายแอนโทนี เจ. บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา 

ได้พูดคุยกับนาย ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยในวันนี้ (15 ธันวาคม 2564) เพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ไม่สามารถเดินทางเยือนกรุงเทพมหานครในสัปดาห์นี้ได้

โดยให้เหตุผลว่า ตนจะเดินทางกลับไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เนื่องด้วยจำต้องระมัดระวังอย่างสูงเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดจนปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของคณะผู้ติดตามและบุคคลอื่น ๆ ที่อาจพบเจอตามกำหนดการเดิม ทั้งนี้ รัฐมนตรีบลิงเคนได้ส่งคำเชิญถึงรัฐมนตรีดอนให้เดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อมีโอกาส และกล่าวว่าตนหวังจะได้เดินทางมายังประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทั้งสองฝ่ายต่างเน้นย้ำว่าจะยังคงเสริมสร้างพันธไมตรีระหว่างสหรัฐฯ กับไทย ผ่านการหารือและดำเนินการต่าง ๆ ร่วมกันในอนาคตต่อไป”

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นายเน็ต ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่าหนึ่งในนักข่าวที่ติดตามนาย บลิงเคน ถูกพบว่าป่วยเป็นโควิด-19 ในประเทศมาเลเซีย อย่างไรก็ตามยังไม่มีการพบว่านักข่าวหรือเจ้าหน้าที่คนอื่นๆมีผลโควิดเป็นบวกเพิ่มเติม

นอกจากนี้วิโรจน์ยังเป็นนักการเมืองที่ใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารกับประชาชนมากที่สุดอีกคนหนึ่งด้วย โดยเขามักจะทวิตเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา @wirojlak และเฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn – วิโรจน์ ลักขณาอดิศร

และเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็ได้สละตำแหน่งเก้าอี้ ส.ส. เพื่อลงสมัครตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เบอร์ 1 ด้วยคอนเซปต์ “พร้อมชนทุกปัญหา เพื่อสร้างเมืองที่คนเท่ากัน” โดยเสนอนโยบายที่เน้นการแก้ปัญหาทุจริตเชิงโครงสร้างรวมไปถึงสวัสดิการทางสังคม และนโยบายหลักอีก 12 นโยบาย เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นตอให้คนกรุงเทพฯ

‘ธนกร’ เชิญ ปชช. ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เผยนายกฯห่วงกินเลี้ยงปีใหม่

ธนกร โฆษกสำนักนายก เชิญประชาขน ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อกระตุ้นภูมิป้องกันโควิด พร้อมเผย นายกฯ ห่วงงานกินเลี้ยงช่วงเทศกาลปีใหม่ นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในระดับคงที่ โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ จำนวน 3,684 ราย แยกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 3,540 ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 144 ผู้ป่วยสะสม 2,153,097 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) มีผู้หายป่วยกลับบ้านวันนี้ 4,531 ราย หายป่วยสะสม 2,078,806 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 45,442 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 20 ราย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่ายอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นเพราะว่ามีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรอย่างทั่วถึงและสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลได้มีการจัดสรรวัคซีนเพื่อเป็นวัคซีน Booster เข็ม 3 ในสถานบริการฉีดวัคซีนแล้ว

จึงขอเชิญชวนประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ซึ่งจะเป็นวัคซีน AstraZeneca / Pfizer / Moderna เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยสามารถติดต่อสอบถามไปยังสถานพยาบาลใกล้บ้านได้

นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังฝากความห่วงใยมาถึงพี่น้องทั่วประเทศ ซึ่งในช่วงเวลาที่เข้าใกล้สิ้นปีนี้ หลายคนที่เริ่มวางแผนจัดงานฉลองปีใหม่ รวมทั้งอาจมีการนัดกินเลี้ยงสังสรรค์ภายในครอบครัว ที่พักอาศัยหรือตามร้านอาหาร

จึงอยากขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ และขอให้ประชาชน ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการติดเชื้อภายในครอบครัวอีกด้วย

เหตุเป็นเพราะ กุหลาบ ได้เขียนและเผยแพร่ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ไทย ที่สวนทางกับของพระราชสำนัก ไม่ว่าจะเป็นข้อเท็จจริงด้านวัฒนธรรม องค์ความรู้ต่าง ๆ อีกทั้งยังกล่าวว่าชนชั้นปกครองในอดีตคือผู้ผูกขาดการศึกษาเพียงฝ่ายเดียว

ถึงอย่างไรก็ตาม แม้แนวคิดของ กุหลาบ ในยุคนั้นจะถูกมองว่าเป็นการขบถ อวดรู้ แต่ก็ได้จุดประกายความคิดด้านการศึกษาและการปกครองสมัยใหม่แก่คนไทยในยุคถัดมา เพื่อยกระดับวงการวิชาการไทย และส่งเสริมให้ชาวไทยทุกคนมีสิทธิได้รับองค์ความรู้ต่าง ๆ อย่างทั่วถึง โดยไม่ให้ผูกขาดอยู่แต่กับชนชั้นปกครองดังเช่นในอดีต

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป