ศาลอนุมัติ หมายจับ ‘สันติ’ คนร้ายฆ่าคนไทย4ศพไต้หวัน

ศาลอนุมัติ หมายจับ ‘สันติ’ คนร้ายฆ่าคนไทย4ศพไต้หวัน

ศาลอนุมัติ หมายจับ สันติ คนร้ายฆ่าคนไทย4ศพไต้หวัน  ตำรวจเผยไม่มั่นใจว่ายังอยู่ในประเทศหรือหนีออกไปแล้ว สัญญาหากหนีออกนอกประเทศ จะตามตัวกลับ พนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้นำสำนวนคดี ฆ่าสามีภรรยาคนไทยท้องลูกแฝดที่ไต้หวัน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ ยื่นขออนุมัติจากศาลอาญาในการออกหมายจับ นายสันติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี

ผู้ต้องหา คดีความผิดต่อชีวิต ตามกฎหมายอาญา มาตรา 8 (ก) 

“ผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และ ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้น หรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษฯ” ซึ่งอาญาอนุมัติหมายจับนาย สันติ แล้ว เบื้องต้นทางทีมสืบสวนกองปราบยังไม่มั่นใจว่าผู้ต้องหายังอยู่ในประเทศ หรือ หลบหนีออกฝั่งประเทศเพื่อนบ้านไปแล้วหรือไม่ ทั้งนี้หากว่านายสันติหลบหนีข้ามประเทศไปแล้ว ก็จะได้ประสานกับตำรวจของประเทศเพื่อนบ้าน ช่วยติดตามจับกุมตัวให้ได้

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นในย่านจงลี่ของไต้หวัน เปิดเผย ถึงความคืบหน้า เหตุฆาตกรรม สามี-ภรรยาชาวไทย หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่่ผ่านมา (10 มิ.ย.65) เวลา 09.00 น. ทางสถานีตำรวจฯ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านถึงกลิ่นเหม็นเน่า โชยมาจากลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน

เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบมีน้ำเหลืองไหล ออกจากท้ายรถสปอร์ตเอสยูวีหรูสีขาว ยี่ห้อ BMW X4 ตรวจสอบภายในท้ายของรถยนต์ก็เจอศพของชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้ที่สันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน

โดยผู้ตายเป็นสามีภรรยากัน ฝ่ายหญิงเป็นชาวไทยที่ได้สัญชาติไต้หวันแล้ว เคยทำงานเป็นล่ามมาก่อน เป็นที่รู้จักกันในนาม “ล่ามมี่” และตั้งครรภ์ทารกแฝดสองได้ 5 เดือน ขณะทีสามีเป็นสัญชาติไทยมาจากอุบลราชธานี ชื่อนายประเสริฐ แรงงานไทยเรียกกันว่า “เฮียมาร์ค”

ทั้งนี้ สาเหตุของการเสียชีวิต ตำรวจไต้หวัน สันนิษฐานว่า เกิดความขัดแย้งในเรื่องการกู้เงินและผลประโยชน์ จนเป็นเหตุนำไปสู่คดีฆาตกรรมดังกล่าว โดยผู้ต้องสงสัยตอนนี้ทราบตัวแล้วเป็นคนไทยที่ได้รับสัญชาติไต้หวันแล้วเช่นกัน และหลังเกิดเหตุก็เดินทางกลับประเทศไทยแล้วด้วยสายการบิน STARLUX เที่ยวบิน JX741

โดย กรมสอบสวนคดีอาญา สำนักงานตำรวจไต้หวันได้ประสานหน่วยงานไทยช่วยติดตามจับกุม เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในไต้หวันต่อไป

ก่อนหน้านี้ พงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังเตรียมเดินทางเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตามหมายเรียกของ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป

จากกรณีที่ กาโตะ ได้นำจำนวนเงิน 600,000 บาท ตามที่ได้ขอยืมไปมอบให้กับ สีกาตอง เพื่อให้นำไปใช้รักษาตัวจากอาการป่วยตามที่มีการร้องขอ แม้ว่าจะมีการนำเงินจำนวนดังกล่าวคืนวัดแล้วก็ตาม แต่ตามข้อกฎหมายแล้วพบว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์

‘ทนายเดชา’ อธิบาย เหตุผลอัยการไม่รับผ้าแตงโม บังแจ็ค

ทนายเดชา อธิบายถึง เหตุผลอัยการไม่รับผ้าแตงโม บังแจ็ค ชี้มีกฎหมายความร่วมมือระหว่างประเทศต้องผ่านขั้นตอนนี้ก่อน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ว่าด้วยเรื่องของ เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ออกมาระบุว่า อัยการไม่ยอมรับ ผ้าแตงโม จากบังแจ็คที่ส่งมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยทนายเดชาระบุว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วทีทางอัยการปฏิเสธ เนื่องจากมีกฎหมายรองรับหลักฐานที่มาจากต่างประเทศ พร้อมฉะทั้งบังแจ็คและ เต้ มงคลกิตติ์ อย่าทำให้ประชาชนสับสน และทำให้ อัยการถูกประชาชนด่า

ซึ่งข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “#คดีแตงโม นายมงคลกิตติ์โพสต์ข้อความว่าอัยการไม่ยอมรับผ้าที่ส่งมาจากบังแจ๊ค USA เป็นเรื่องถูกต้องแล้วครับ เพราะการได้พยานหลักฐานต้องเป็นพยานหลักฐานชอบด้วยกฎหมาย พยานหลักฐานที่มาจาก​ต่างประเทศมีกฎหมายความร่วมมือระหว่างประเทศต้องผ่านขั้นตอนดังกล่าวก่อน อย่าทำให้สังคมสับสน ให้คนไปด่าอัยการนะครับ 555”

บังแจ็ค โพสต์คลิปใหม่เป็น คลิปกระติกคุยกับปอ บนเรือในวันเกิดเหตุ ถามคุยอะไรกัน? ชาวเน็ตแห่แกะบทสนทนาเพียบ บังแจ็ค เคลื่อนไหวอีกครั้ง หลังโพสต์คลิปบนเรือลงเพจเฟซบุ๊ก Happy Melon official ซึ่งคาดว่าเป็นคลิปที่ถูกถ่ายโดยมือถือของแตงโม นิดา นักแสดงสาวที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. และยังเป็นที่จับตามองของสังคมอยู่ในขณะนี้

โดยจากคลิปนั้นเป็นคลิปบนเรือ ซึ่งเรือกำลังล่องในแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงเย็นๆของวันเกิดเหตุ และมีเสียงของชายหญิงคู่หนึ่งคุยกัน โดยคาดว่าเป็นเสียงพูดคุยระหว่าง ไฮโซปอ และ กระติก โดยบังแจ็คได้ตั้งแคปชั่นของคลิปนี้ว่า “ช่วยบอกให้หน่อยว่าเสียงสองคนที่คุยกันเสียงเป็นใครแล้วเค้าคุยอะไรกันครับ”

จากการพยายามฟังนั้นพอจะจับความได้ว่า กระติกได้คุยอะไรกับทางไฮโซปอ ซึ่งทางปอก็ไม่ได้ยินและถามว่า “อะไรนะ?” ทางกระติกก็พูดซ้ำว่า “ปิดเสียอยู่นิ” ปอก็ตอบว่า “ใช่” กระติกก็พูดติดตลกว่า “ปิดค่ะปิดค่ะ” ทางปอก็บอกว่า “ปิดเมีย” และหัวเราะ

อย่างไรก็ตามความเห็นชาวเน็ตส่วนใหญ่นั้นฟังค่อยออก ขณะที่มีบางส่วนแนะนำให้บังแจ็คลงคลิปไปเรื่อยๆ เพื่อที่แตงโมจะได้รับความเป็นธรรม

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป